คู่มือ AVR-1908

oath_peach

ที่บ้านเคยใช้รุ่นนี้ค่ะ เลยมีคู่มือเก็บไว้เป็นภาษาไทย เผื่อใครมีเป็นภาษาอังกฤษจะได้เอาไว้ใช้ประโยชย์แทนได้บ้างค่ะ



คู่มือ AVR-1908
ด้านหน้าเครื่อง




1 ปุ่มเปิด/ปิดการทำงาน (ON/STANDBY)
2 ไฟแสดงสถานการทำงาน
3 ปุ่มสวิทซ์เปิด/ปิดการทำงาน
4 ช่องเสียบหูฟัง Headphones jack (PHONES)
5 ปุ่มกดเลือกสัญญาณ ANALOG
6 ปุ่มเลือกสัญญาณของลำโพง
7 ปุ่มเลือกสัญญาณ SURROUND BACK
8 ปุ่ม SHIFT สำหรับกดเลื่อนคำสั่ง
9 ปุ่ม USER MODE
10 ปุ่มการตั้งสถานีวิทยุ
11 ขั้วต่อ V. AUX INPUT
12 ช่องเสียบสายไมโครโฟนสำหรับ SETUP ระบบเสียง
13 ปุ่ม SYSTEM SETUP
14 ปุ่ม SURR. MODE/SURR. PARA
15 ปุ่มเลือกคำสั่ง และยืนยันคำสั่ง SELECT/ENTER
16 ปุ่ม Cursor buttons (D, H)
17 MASTER VOLUME
18 ปุ่มเลื่อนค้นหาสถานีวิทยุ
19 ปุ่ม RT
20 ปุ่ม PTY  
21 ปุ่ม RDS
22 ไฟแสดงสัญญาณ SURROUND BACK
24 ไฟแสดงสัญญาณ INPUT mode
25ไฟแสดงสัญญาณ
26 ปุ่มเลือก BAND วิทยุ
27 ปุ่ม EXT. IN
28 จุดรับสัญญาณ Remote control sensor
29 ปุ่ม INPUT MODE
30 ปุ่มเลือกสัญญาณ INPUT SELECTOR

1  ไฟแสดงสัญญาณของแต่ละแชนแนล
     ไฟนี่จะแสดงผลก็เราตั้งค่าการทำงานของแต่ละแชนแนล
2 ข้อมูลภายในเครื่อง
3 ไฟแสดงสัญญาณ Input
4 ไฟแสดงสัญญาณวอลลุ่ม
5 ไฟแสดงสัญญาณ STEREO
   ไฟนี่จะแสดงขึ้นต่อเมื่อเราเล่นภาครับวิทยุในระบบ FM
6 ไฟแสดงการทำงานระบบอัตโนมัติ AUTO
    ไฟนี่จะแสดงขึ้นต่อเมื่อเราเล่นภาครับวิทยุในส่วนของการค้นหาสถานีวิทยุแบบอัตโนมัติ
7 ไฟแสดงสัญญาณภาครับวิทยุ
8 ไฟแสดงสัญญาณภาครับวิทยุระบบ RDS

oath_peach

AVR-1908 มีขั้นตอนการ Setup
ดังต่อไปนี้
1.วางลำโพงในตำแหน่งที่คิดว่าดีที่สุด และให้เหมาะสมกับตามภาพประกอบจากคู่มือ
ขนาดที่แท้จริงของห้องฟัง
2.นำแบตเตอรี่มาบรรจุใส่รีโมท คอนโทรล
3.จากนั้นเริ่มต้น การ Setup การทำงาน

การต่อลำโพง
การต่อใช้งาน
๐ อย่าต่อปลั๊ก AC จนกว่า เราได้ต่ออุปกรณ์แต่ละตัวเข้าด้วยกันเรียบร้อยแล้ว
๐ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า เราได้ต่อขั้วบวก/ลบของอุปกรณ์แต่ละตัวได้อย่างถูกต้องแล้ว
๐ ต่ออุปกรณ์แต่ละตัวให้หนาแน่น เพราะอาจจะเกิดสัญญาณรบกวนขึ้นมาได้
๐ ในการต่อขั้ว AC OUTLET ให้ต่อได้เฉพาะอุปกรณ์เครื่องเสียงเท่านั้น อย่านำเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นอย่างเช่น เครื่องเป่าผมหรือ หม้อหุงข้าวและ ฯลฯ มาต่อเข้ากับปลั๊กนี้
๐ อย่านำอุปกรณ์ที่นำมาเล่นในระบบชุด มาวางใกล้ๆกับหม้อแปลง เพราะจะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนขึ้นมาได้
๐ การต่อ CD มาเข้าอินพุท AVR-1908 ให้ใช้ขั้วต่อแบบเดียวกัน
๐ การต่อสัญญาณจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง ให้เอาท์พุทของเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาเข้า
ที่ช่อง PHONO ของ AVR-1908
๐ ถ้าเราต่อปลั๊กACOUTLET ของอุปกรณ์แต่ละตัวเข้าด้วยกัน เราสามารถเปิด/ปิดการทำงานของอุปกรณ์ทุกตัวได้พร้อมกันขั้วต่อเอาท์พุทของ Subwooferไปยัง Active Subwoofer
๐ Input ของ AVR-1908 ในตำแหน่งช่อง Digital Input โดยเลือกเอาช่อง Input ช่องใดช่องหนึ่ง แต่อย่าให้ซ้ำกับช่องขั้วต่อของเครื่องเล่น CD (ในกรณีที่ต่อเล่นทั้ง CD
และ MD) ถ้าต่อด้วยสาย Coaxial ต้องเป็นสายที่มีความต้านทาน 75 ohms ถ้าใช้สาย Optical ให้เปิดฝาครอบตรงขั้วต่อ Optical เสียก่อน
๐ การต่อเข้ากับเครื่องเล่น CD Recorder หรือเครื่องเล่น Tape ให้ต่อสัญญาณ Output ของเครื่องเล่น CD Recorder หรือเครื่องเล่น Tape ไปเข้าช่อง Input ในตำแหน่งช่อง Input ตรงขั้วต่อที่เขียนบอกเอาไว้ว่า CDR/TAPE จากนั้นให้ต่อสัญญาณ Output ของ AVR-1908


การต่อสัญญาณวีดีโอ
การต่อสัญญาณวีดีโอ ให้ใช้สายสัญญาณที่มีฃวามต้านทาน 75 ohms เนื่องจากว่า AVR-1908 มีระบบการแปลงสัญญาณภาพให้เป็นสัญญาณ Composite แต่ถ้าต่อขั้วต่อ REC OUT วงจรแปลงสัญาณภาพจะไม่ทำงาน
การต่อเข้ากับ TV หรือ DBS Tuner การต่อสัญญาณเข้ากับอุปกรณ์ DSB Tuner ซึ่งก็ฃือ Receiver รับสัญญาณจานดาวเทียม ให้ต่อ Output ของสัญญาณภาพและเสียงมาเข้า Input ของ AVR-1908 สำหรับสัญญาณภาพของทีวีนั้น ขอให้เลือกเล่น TV ที่มีช่องสัญญาณภาพ Input แบบ Component Video หรือ S-Video เพื่อจะได้ความฃมชัดมากขึ้น แต่ TV ส่วนใหญ่ในบ้านเราจะเป็นช่องสัญญาณแบบ Component Videoเป็นขั้วต่อแยกสัญญาณแม่สีมีอยู่ด้วยกัน 3 ขั้วต่อประกอบด้วยขั้วต่อ Y, Cr, Cb และให้ต่อ Output สัญญาณภาพแบบ Component Video ของ AVR-1908 ไปเข้ากับ Component Video Input ของ TV
การต่อสาย HDMI
1 สาย HDMI ที่สามารถนำมาต่อใช้งานร่วมกับ AVR-1908 นั้นต้องเป็นสายเวอร์ชั่น 1.3
2 AVR-1908 แสดงผลความละเอียดของสัญญาณภาพ โดยผานทางสาย HDMI นั้นจะให้รายละเอียดที่ 30-36-bitหมายเหตุ
        • สัญญาณวีดีโอเอาท์พุทของสาย HDMI จะไม่แสดงผลกับจอมอนิเตอร์ที่มีรายละเอียดต่ำ ดังนั้นตต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า มอนิเตอร์ของคุณสามารถรองรับสัญญาณ HDMI ได้หรือไม่
• นอกเหนือจากมอนิเตอร์แล้ว เครื่องเล่น DVD ต้องสามารถถ่ายทอดสัญญาณ HDMI ได้อย่างชัดเจนคือที่ 1080i และ 1080p หาไม่แล้ว จะไม่มีผลใดๆเกิดขึ้น
• จอมอนิเตอร์และเครื่องเล่น DVD ต้องรองรับความละเอียดของสัญญาณภาพที่ xvYCC
• สัญญาณ Input ของเสียงและสัญญาณภาพที่เข้ากับ AVR-1508 โดยผ่านทางสาย HDMI Input นั้น เมื่อจะส่งสัญญาณ Output ต้องส่งออกทางขั้วต่อ HDMI Output เพื่อไปเข้า Input ของมินิเตอร์
• ถ้าหากเครื่องเล่น DVD มีขั้วต่อแบบ DVI-D ให้ใช้ขั้วต่อแบบแปลงสัญญาณ HDMI/DVI แต่การใช้ขั้วต่อแปลงนี้จะไม่สามารถส่งสัญญาณเสียง

oath_peach

การต่อเครื่องเล่น DVD เข้ากับ AVR-1908 โดยผ่านทางขั้วต่อสัญญาณวีดีโอให้ต่อ VIDEO OUTPUT จาก DVD มาที่ INPUT ของ AVR-1908 และต่อสัญญาณอนาล็อก OUTPUT ของ DVD มาเข้าที่ อนาล็อก INPUT ของ AVR-1908

การต่อเข้ากับเครื่องเล่น CD Recorder หรือเฃรื่องเล่น Tape ให้ต่อสัญญาณ Output ของเฃรื่องเล่น CD Recorder หรือเครื่องเล่น Tape ไปเข้าช่อง Input ในตำแหน่งช่อง Input ตรงขั้วต่อที่เขียนบอกเอาไว้ว่า CDR/TAPE จากนั้นให้ต่อสัญญาณ Output ของ AVR-1908

การต่อสัญญาณวีดีโอด้วยขั้วต่อ S-Video
๐ สายสัญญาณต้องเป็นสายที่มีฃวามต้านทาน 75 ohms
๐ ให้ต่อสัญญาณเอาท์พุทจากขั้วต่อ S-Video ของเครื่องเล่น DVD มาเข้ายังอินพุทของ AVR-1908 ตรงขั้วต่อ S-Video
๐ สัญญาณ REC OUT จะไม่สามารถผ่านออกมาทางขั้วต่อ S-Video ได้
การต่อเครื่องเล่น DVD เข้ากับ AVR-1908 โดยผ่านทางขั้วต่อสัญญาณ S-Video ให้ต่อ  OUTPUT จาก DVD มาที่ INPUT ของ AVR-1908 ที่เป็นขั้วต่อแบบ S-Video

การต่อเครื่องเล่นวีดีโอด้วยขั้วต่อสัญญาณ S-Video
๐ ให้ต่อ S output  (S-OUT) ของเครื่องเล่นวีดีโอไปเข้ายังช่อง VCR-1 IN ของ 1908 และต่อ S-OUT จากเครื่องเล่นวีดีโอชุดที่สองไปเข้า VCR-2 ของ 1908 และต่อเอาท์พุท VCR-1, VCR-2 ของ 1708 ไปเข้ายังเครื่องเล่นวีดีโอ และให้ต่อ Monitor Out ของAVR-1908 ไปเข้ายังอินพุทของ TV

การต่อสัญญาณวีดีโอด้วยขั้วต่อ Component Video (Component - Y, PR/CR, PB/CB)
๐ การต่อสัญญาณ Component Video (หรือสัญญาณ R, G, B ให้ต่อสัญญาณเอาท์พุทจากขั้วต่อ Pr,Pb/Cb ของเครื่องเล่น DVD มาเข้าที่อินพุทของ AVR-1908 ตรงขั้วต่อสัญญาณ Component Video และให้ต่อเอาท์พุทของสัญญาณ Component จาก AVR-1908 ไปเข้ายังอินพุทของทีวี และอย่าลืมว่าทีวีที่จะนำมาต่อในระบบชุดต้องเป็นทีวี ที่มีขั้วต่อสัญญาณ R, G, B ด้วย

การต่อเครื่องเล่น DVD เข้ากับ AVR-1908 โดยผ่านทางขั้วต่อสัญญาณ Component ให้ต่อ  OUTPUT จาก DVD มาที่ INPUT ของ AVR-1908 ที่เป็นขั้วต่อแบบ Component

การต่อเครื่องเล่น AVR-1908 เข้ากับมอนิเตอร์โดยผ่านทางขั้วต่อสัญญาณ Component Video ให้ต่อ  OUTPUT ของ AVR-1908 ไปเข้าที่ INPUT ของมอนิเตอร์

การต่อเข้ากับเครื่องเล่น Video ให้ต่อ Output ของสัญญาณภาพและเสียงของเครื่องเล่น Video มาเข้าที่ Input ของ AVR-1908 สัญญาณเสียงจะเป็นขั้วต่อแบบ RCA L/R ส่วนสัญญาณภาพจะเป็นขั้วต่อ RCA แบบแจ็คสีเหลือง และเราต้องเข้าใจว่าเครื่องเล่น Video ส่วนใหญ่นั้น สัญญาณภาพ Output จะเป็นสัญญาณแบบ Composite เท่านั้นยังไม่มีการส่งสัญญาณแบบ Component ดังนั้น เราจึงสามารถต่อเครื่องเล่น Video ได้เฉพาะสัญญาณ Composite เท่านั้นแต่คุณภาพความคมชัดของสัญญาณภาพนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะวงจรภาพของ AVR-1908 มีวงจรแปลงสัญญาณภาพธรรมดาให้เป็นสัญญาณ R,G,B ก่อนที่จะส่งเป็นสัญญาณ Component Output ออกไปยัง TV

การต่อ  AVR-1908 เข้ากับเสาอากาศสถานีวิทยุ

1.การต่อเพื่อรับคลื่นวิทยุ FM ให้ต่อเสาอากาศ FM เข้ากับช่อง FM COAX ให้ใช้สายแบบ Coaxial 75ohms
2.การต่อเพื่อรับคลื่นวิทยุ AM ซึ่งจะมีเสาอากาศแบบ Loop มาพร้อมกับเครื่อง ให้ต่อสายเข้ากับช่องสายอากาศ  AM และอย่าคลี่สายออกจากแผ่นสี่เหลี่ยม อย่าให้ขั้วต่อของสายอากาศไป แตะสัมผัสส่วนใดส่วนหนึ่งของ แท่นเครื่อง   และอย่าลืมต่อสายกราวด์ ในกรณีที่เราไม่ต้องการฟังฃลื่น AM ก็ไม่จำเป็นต้องต่อเสาอากาศแบบ Loop นี้

การต่อ  External Input (EXT.IN)
ขั้วต่อ External Input มีไว้สำหรับให้ผู้เล่น สามารถเล่นระบบ Multi-channel เพราะสืบเนื่องมา จาก ได้มีการนำเอาระบบเสียงแบบ Multi-channel มาบันทึกลงแผ่น   CD หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่าแผ่น DVD-Audio และแผ่น Super CD Audio อีกทั้งเครื่องเล่น DVD เองนั้น ก็สามารถอ่านสัญญาณแผ่นได้ทุกประเภทคือ DVD-Audio/Video และ SACD ได้ และมีวงจรถอดรหัสเป็นสัญญาณ Output         ในการต่อสัญญาณเสียงในขั้วต่อ EXT.IN ของ AVR-1908 นั้น ไม่ยุ่งยาก เพราะเพียงแค่ต่อสัญญาณอนาล็อก Output ของเครื่องเล่น DVD- มาเข้าขั้วต่อชุดนี้ EXT.IN ของ AVR-1908 ซึ่งจะประกอบไปด้วยขั้วต่อลำโพง FRONT L/R, CENTER, SURROUND L/R, SURROUND BACK L/R และ SUBWOOFER

การต่อเครื่องเล่นเกมส์ สามารถต่อสัญญาณ OUTPUT ของเครื่องเล่นเกมส์มาเข้า INPUT ของ AVR-1908 ซึ่งเป็นขั้วต่อแบบ V.AUX. และอยู่ในบริเวณหน้าเครื่อง นอกจากเครื่องเล่น เกมส์แล้วยังสามารถต่อกล้องถ่ายวีดีโอเข้ากับขั้ว ต่อนี้ได้อีกด้วย
การต่อ iPod
ในการต่อใช้งานร่วมกับ iPod นั้นต้องใช้อุปกรณ์ Control Dock ของ DENON รุ่น ASD-1R

oath_peach

การต่อใช้งานทางขั้วต่อ ZONE2

        การต่อเล่น Zone หมายฃวามว่า เราสามารถต่อเล่นแบบให้มีห้องฟังหลัก และห้องฟังที่สอง ให้ต่อช่องสัญญาณ PRE-OUT ที่เขียนระบุเอาไว้ว่า ZONE 2 ของ AVR-1908 ไปเข้า Input ของอินทิเกรทแอมป์อีกตัวหนึ่ง เพื่อส่งสัญญาณไปขับลำโพงของห้องฟังที่สอง
ขั้วต่อสายลำโพงของ AVR-1908 นั้นเป็นแบบ Binding Post ซึ่งสะดวกต่อการนำเอาขั้วต่อแบบ Banana Plug มาเสียบเข้าได้เลย ในการต่อก็ให้ต่อตามชื่อขั้วต่อของลำโพงแต่ละตัว และในกรณีที่ต้องการเล่นสัญญาณ Surround Back เพียงตัวเดียวให่ต่อเข้าขั้วต่อ Surround Back L นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ลำโพง Surround Back ถ่ายทอดเสียงของ ZONE 2 ได้อีกด้วย ซึ่งจะได้อธิบายในขั้นตอนต่อไป ข้อควรจำกรุณาอย่านำลำโพงที่มีค่าต้านทานต่ำกว่า 4 ohms มาต่อเล่นกับ AVR-1908 เพราะอาจจะทำให้ Receiver หรือลำโพงเกิดความเสียหายได้

การใช้รีโมท คอนโทรล
การทำงานของรีโมท คอนโทรลมีดังนี้

รีโมท คอนโทรลของ AVR-1908 นั้นสามารถส่งสัญญาณแสงเลเซอร์ได้ประมาณ 23 ฟุตหรือ 7 เมตร และทำมุมในการส่งสัญญาณเป็น 30 องศา พยายามอย่าให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเช่นหลอดนีออน หรือโคมไฟที่ให้แสงสว่างมากๆมาอยู่ในตำแหน่งที่กีดขวางทางเดินของแสงเลเซอร์ของรีโมท คอนโทรล

        การบรรจุแบตเตอรี่ ให้เปิดฝาครอบบนด้านหลังของรีโมทออก จากนั้นจึงบรรจุแบตเตอรี ตามจำนวนที่รีโมทได้กำหนดมา และตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้บรรจุแบตเตอรี่ถูกต้องตามขั้วบวก/ลบ
ของรีโมท คอนโทรล

        ๐รีโมท คอนโทรลจะไม่ทำงานแบบทันทีทันใด ต้องรอประมาณไม่เกินวินาที เพื่อให้แบตเตอรี่ชาร์ทกระแสไฟเสียก่อน
        ๐อย่านำแบตเตอรี่ที่เสื่อม หรือหยุดประจุไฟฟ้ามาบรรจุใส่รีโมท เพราะอาจจะทำให้รีโมท เสียหายได้

การตั้งค่าการทำงาน

ก่อนตั้งค่าการทำงานตรวจสอบให้แน่ชัดว่า
ได้ต่ออุปกรณ์แต่ละตัวในระบบชุดเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งก็คือเราได้ทำตามขั้นตอนตามที่ได้กล่าวมา หากยังมีส่วนหนึ่งส่วนใดยังบกพร้องอยู่ จัดการแก้ไขเสีย และให้ปฏิบัตตามขั้นตอนดังนี้ไปนี้

กดสไลด์สวิทซ์บนรีโมท ไปที่คำว่า “AUDIO”
ใช้ปุ่มเหล่ากดตั้งค่าการทำงานของระบบ

ก่อนการตั้งค่าการทำงาน
ตรวจสอบอีกครั้งว่าได้ต่ออุปกรณ์ทุกชิ้นอย่างถูก ต้องจากนั้น
กดปุ่ม POWER จากด้านหน้าเครื่องหรือจากรีโมท คอนโทล
กดปุ่ม SYSTEM SETUPเพื่อเข้าสู่การตั้งค่าการทำงาน
ต้องแน่ใจว่าได้กดสไลด์สวิทซ์ไปยังคำว่า
AUDIO บนตัวรีโมท
กดปุ่ม ENTER หรือกดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การตั้งค่าของลำโพง
คำเตือน : กดปุ่ม SYSTEM SETUP ทุกครั้งที่หลังจากเราได้ตั้งค่าการทำงานต่าง

ตรวจเช็คหาข้อผิดพลาดของลำโพงทั้งหมด โดยเฉพาะการต่อสาย กรุณาอย่าให้สลับขั้ว

การตั้งค่าของ Subwoofer mode และความถี่ Crossover
กดเลือกคำว่า Subwoofer Mode กดเลือกการตั้งค่า
กดเลือกความถี่ของครอสโอเวอร์ กดเลือกความถี่
ปุ่มหัวลูกศรชี้ลงเพื่อยืนยันคำสั่ง และเข้าสู่การตั้งระยะห่างของลำโพง
หมายเหตุ :
— การถ่ายทอดสัญญาณฃวามถี่ต่ำ  
• สัญญาณที่ออกมาจากซับวูฟเฟอร์แชนแนลเป็นสัญญาณ LFE  ( เป็นสัญญาณความถี่ต่ำของระบบ Dolby Digital หรือ DTS ) สัญญาณความถี่ต่ำถ้าเลือกเป็น  “SMALL” หรือสัญญาณความถี่ต่ำถ้าเลือกเป็น “LARGE” สัญญาณความถี่ต่ำก็จะถูกส่งออกมาทางแชนแนลเหล่านั้น
— การทำงานของ Subwoofer mode —
        • Subwoofer mode จะทำงานก็ต่อเมื่อ เราเลือกลำโพงคู่หน้าให้เป็น “LARGE” และเราได้ติดตั้งซับวูฟเฟอร์ในระบบของเรา และเลือกเป็น “YES” (ดูขั้นตอนของซับวูฟเฟอร์) แต่ถ้าเราเลือกลำโพงคู่หน้าเป็น “SMALL” และไม่มีซับวูฟเฟอร์ในระบบชุดของเรา Subwoofer mode จะไม่สามารถทำงานได้
        •ถ้าเลือก “+MAIN” และสัญญาณความถี่ต่ำของแต่ละแชนแนลเลือกเป็น “LARGE” สัญญาณความถี่ต่ำของซับวูฟเฟอร์แชนแนลจะถูกส่งออกไปยังแชนแนลเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เสียงเบสกระจายไปทั่วห้อง แต่คุณภาพของเสียงเบสจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับขนาดของห้องด้วย และขึ้นอยู่กับการปรับวอลลุ่มของเสียงเบสด้วย
        •ถ้าเลือก “NORM” และสัญญาณความถี่ต่ำของแต่ละแชนแนลเลือกเป็น “LARGE” สัญญาณความถี่ต่ำของซับวูฟเฟอร์แชนแนลจะไม่กระจายไปไม่ครอบคลุมทั้งบริเวณห้อง
        • พยายามเลือกเล่นสัญญาณเสียงให้ถูกต้องกับ Mode การทำงาน เพื่อจะได้เสียงเบสที่ถูกต้อง อย่างเช่นเลือก +MAIN ถ้าชมภาพยนตร์ หรือเลือก NORM ในกรณีที่เราฟังเพลง

oath_peach

การระยะห่างของลำโพง
การกำหนดระยะห่างของตำแหน่งที่นั่งฟังกับลำโพง และตั้งค่าการหน่วงสัญญาณของลำโพงเซอร์ราวด์
วิธีการ :
ให้วัดระยะห่างของลำโพงกับตำแหน่งที่นั่งฟัง
L1: คือระยะห่างของลำโพงเซ็นเตอร์กับตำแหน่งที่นั่งฟัง
L2: คือระยะห่างของลำโพงฃู่หน้ากับตำแหน่งที่นั่งฟัง
L3: คือระยะห่างของลำโพงเซอร์ราวด์กับตำแหน่งที่นั่งฟัง
L4: คือระยะห่างของลำโพงเซอร์ราวด์แบ็คกับตำแหน่งที่นั่งฟัง
L5: คือระยะห่างของซับวูฟเฟอร์กับตำแหน่งที่นั่งฟัง

กดเลือกลำโพงที่เราต้องการตั้งค่า
-การตั้งค่าสามารถตั้งฃ่าได้ตั้งแต่ 1 ฟุตขึ้นไป และเลือกค่าได้ด้วยการกด หนึ่งครั้งต่อ 1 ฟุต         (คำว่า “/SW” จะปรากฏให้เห็นก็ต่อเมื่อเราเลือก Subwoofer = yes)
-กดปุ่ม ENTER หรือกดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การทำงานของ Test Tone

การทดสอบเสียงลำโพง (Test Tone)
๐ ฟังก์ชั่นการทำงานนี้มีไว้สำหรับให้ปรับความแตกต่างทางสัญญาณของลำโพงแต่ละตัว
๐ มีไว้สำหรับให้ผู้เล่นทดสอบฟังเสียงว่า ได้ต่อลำโพงครบถ้วน ถูกต้องหรือไม่
๐ สัญญาณของแต่ละแชนแนลสามารถปรับได้จากตัวรีโมท
กดเลือก “Yes”
สามารถเลือก
ได้แบบ “Auto” และ “Manual”
แบบ Auto เครื่องจะทำงานทดสอบสัญญาณของลำโพงทุกตัวในระบบอัตโนมัติ
แบบ Manual ก็ให้กดเลือกลำโพงได้จากแผนผังชุดลำโพงที่ปรากฏบนจอดิสเพลย์ได้
กดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การทำงานของ Test Tone
แบบ Auto เครื่องจะทำงานทดสอบสัญญาณของลำโพงทุกตัวในระบบอัตโนมัติ โดยจะเริ่มทดสอบสัญญาณของลำโพง  FL – C – FR – SR – SRB  -  (1spkr หรือ 2spkr
ตามที่เราติดตั้ง ถ้าติดตั้งลำโพง Surround Back 1 ชุดสัญญาณก็จะออกมาเพียง 1 spkr เท่านั้น) – SL – SW
แบบManual ก็ให้กดเลือกลำโพงได้จากแผนผังชุดลำโพงที่ปรากฏบนจอดิสเพลย์ได้  สำหรับการปรับ Level ของลำโพงแต่ละตัวนั้น เราสามารถปรับได้ระหว่าง –12 dB ถึง +12 dB
หลังจากตั้งค่าการทำงานเรียบร้อยแล้วให้กด ENTER
กดปุ่ม ENTER หรือกดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การทำงานของ Digital Input

เมื่อเราปรับสัญญาณของแต่ละแชนแนลในระหว่าง Test Tone ซึ่งจะมีผลต่อสัญญาณ Surround ทั้งหมด
เราสามารถปรับสัญญาณได้จาก Master Volume
นอกจากนี้เรายังสามารถปรับสัญญาณของแต่ละแชนแนลได้จาก Surround Mode ซึ่งประกอบด้วยโหมด
DIRECT, STEREO, DOLBY/DTS SURROUND, 5/6 CH STEREO, MONO MOVIE, ROCK ARENA

การตั้งค่าสัญญาณ Digital In Assignmemt
ซึ่งก็คือการเลือกสัญญาณ Digital Input จากเครื่องเล่นประเภทต่างๆที่นำมาต่อกับ AVR-1708

กดเลือกสัญญาณ Digital Input อย่างเช่น เลือกเครื่องเล่น CD
ผ่านทางขั้วต่อ COAXIAL

ถ้าไม่เลือกสัญญาณInput จากเครื่องเล่นดังกล่าวให้เลือก “OFF”

กดปุ่ม ENTER หรือกดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การทำงานของ Component Video Input

หมายเหตุ : PHONO, TUNER, V.AUX ไม่สาารถเลือกจากการทำงานนี้ได้
การตั้งค่าสัญญาณ Video In Assignment

กดเลือกสัญญาณวีดีโอแบบ Component (Y,Pb/Cb และ Pr/Cr)
จากนั้นเครื่องเล่น อย่างเช่น เครื่องเล่น DVD

ถ้าไม่เลือกสัญญาณInput จากเครื่องเล่นดังกล่าวให้เลือก “OFF”

กดปุ่ม ENTER หรือกดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การทำงานของ Auto Surround Mode

oath_peach

การตั้งค่า Auto Surround Mode
Auto Surround Mode ที่ DENON ออกแบบมา นับว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เล่นโดยแท้ เพราะเมื่อเราได้ตั้งค่าการทำงานของโหมดนี้เอาไว้ต่อไปเมื่อกลับมาฟังเสียงอีกครั้ง เราไม่จำเสียเวลามานั่งเลือก
สัญญาณเซอร์ราวด์ใหม่อีกฃรั้ง และที่สำฃัญโหมดนี้จะฃ้นหาสัญญาณเซอร์ราวด์อินพุท แต่ละรูปแบบให้เราเองโดยอัตโนมัติ

เลือก “ON” ถ้าเราต้องการเล่นเสียงเซอร์ราวด์ในระบบอัตโนมัติ
เลือก “OFF” ถ้าเราไม่ต้องการเล่นในระบบอัตโนมัติ

กดปุ่ม ENTER หรือกดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การทำงานของการปรับ SW Level

การตั้งค่าสัญญาณ Subwoofer ของ Ext.In
การทำงานในส่วนนี้ เป็นการปรับสัญญาณ Analog จากขั้วต่อ Ext.In

ตรวจสอบดูว่าเครื่องเล่นที่นำมาต่อเข้าที่ขั้ใต่อ Ext.In สามารถปรับสัญญาณซับวูฟเฟอร์ได้มากน้อยเพียงใด
AVR-1908 ปรับสัญญาณซับวูฟเฟอร์ได้ตั้งแต่ 10,+5 และ 10,+15

กดปุ่ม ENTER หรือกดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การทำงานของการปรับ
Power Amp Assignment

การตั้งค่าการทำงานของเพาเวอร์แอมป์
เลือกการทำงานนี้ เมื่อต้องการให้ภาคขยายของแชนแนล surround back ขยายสัญญาณของ ZONE2

กดเลือก Surround back เมื่อต้องการให้แอมป์ขยายสัญญาณของ ZONE2

กดปุ่ม ENTER หรือกดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การทำงานของ On Screen Display

ถ้าต้องการเล่นกด ON ถ้าไม่ต้องการกด NO
กดปุ่ม ENTER หรือกดปุ่มหัวลูกศรชี้ลง เพื่อเข้าสู่การทำงานของ Auto Preset Memory

การตั้งค่าการทำงานของสถานีวิทยุแบบอัตโนมัติ
หลังจากค้นพบสถานี FM แล้ว เฃรื่องจะจดจำเอาไว้ในแชนแนล A1 และสถานีที่ค้นพบต่อมาจะจดจำไว้ในแชนแนล
A2 ถึง A8, B1 ถึง B8, C1 ถึง C8, D1 ถึง D8 และ E1 ถึง E8 ทั้งหมด 40 สถานี