booboo โพสต์ 16-3-2010 13:00:40

มาทำความรู้จักกับ Blu-ray Disc กันดีกว่า



เทคโนโลยีนี้ มีชื่อว่า Blu-ray เกิดจากความร่วมมือ และพัฒนาโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ 9 บริษัท ที่เรียกตัวเองว่า “The Blu-ray Disc Founders” ซึ่งประกอบไปด้วย Hitachi Ltd., LG Electronics Inc., Matsushita Electric Industrial Co., Ltd., Pioneer Corporation, Royal Philips Electronics, Samsung Electronics Co. Ltd., Sharp Corporation, Sony Corporation และ Thomson Multimedia และนอกจากจะร่วมมือกันพัฒนาแล้ว ยังจะร่วมกันผลักดันเทคโนโลยี Blu-ray ให้เป็นมาตรฐานของแผ่นดิสก์ต่อไปอีกด้วย

เทคโนโลยี Blu-ray สามารถบันทึกข้อมูล, ภาพ, เสียง, วิดีโอ และมัลติมีเดียต่างๆ ที่มีคุณภาพสูงได้มากกว่า DVD ซึ่งดิสก์ที่ใช้กับเทคโนโลยีนี้ จะเรียกว่า “Blu-ray Disc (BD)”



“BD” (Blu-ray Disc) นั้น เป็นชื่อที่มาจากแสงเลเซอร์ที่ใช้คือ แสงเลเซอร์สีน้ำเงิน (Blue Laser) ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในปี 1996 โดย นาย Shuji Nakamura ซึ่งเป็นนักวิจัยของ Nichia Corp. BD ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์สีน้ำเงิน ที่มีความยาวคลื่นเพียง 405 nm. กับเลนส์ขนาด 0.85 และโครงสร้างแบบ Optical transmittance protection disc layer ที่มีความหนาเพียง 0.1 mm. ทำให้เก็บข้อมูลได้มากถึง 27 กิกะไบต์ ในดิสก์แบบด้านเดี่ยวชั้นเดียว(Single sided single layer) ในแผ่นขนาด 12 เซนติเมตร (เท่ากับ CD และ DVD ทั่วไป) ซึ่งนั่นหมายความว่า เราสามารถเก็บหนังที่มีหลายภาคต่อเนื่องอย่างเช่น Star War หรือหนังชุดอย่าง เช่น เจาะเวลาหาจิ๋นซี ได้ ลงในดิสก์เพียงแค่แผ่นเดียว!

ด้วยความจุที่มีมากถึง 27 กิกะไบต์ BD สามารถบันทึกวิดีโอดิจิตอลในมาตรฐานภาพยนตร์ทั่วๆ ไป (VHS) ได้ถึง 13 ชั่วโมง (แผ่น DVD บันทึกได้ 2-3 ชั่วโมง) และสัญญาณที่มีคุณภาพระดับสูงกว่านั้น หรือ HDTV (High-resolution digital Television) ได้ถึง 2.5 ชั่วโมง (แผ่น DVDบันทึกได้ไม่ถึง 30 นาที) โดยยังรักษาคุณภาพของข้อมูลที่เป็นต้นฉบับไว้อย่างครบถ้วน และนอกจากนี้ BD ยังมีการบันทึก Unique ID (RID) ลงไปเพื่อช่วยในการอ้างอิง และแสดงลิขสิทธ์ใน Record stream อีกด้วย

คุณสมบัติพิเศษของ BD ที่เป็นลักษณะเด่นของการใช้เทคโนโลยี Blu-ray ก็คือ อัตราการถ่ายโอนข้อมูลของเลเซอร์สีน้ำเงิน ที่มีความเร็วสูงถึง 36 Mbps. และใช้เทคโนโลยีการบีบอัดแบบ MPEG-2 Transport Stream ทำให้สามารถบันทึกสัญญาณ หรือข้อมูลคุณภาพสูงได้ โดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด ความเร็วนี้ ยังสามารถส่งข้อมูลเพื่อ Record/Playback แบบ Real-time ได้ และยังสามารถแก้ไข , Capture ภาพจากกล้องวิดีโอ หรือภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กับการบันทึกรายการในโทรทัศน์ได้ในเวลาเดียวกัน เครื่องเล่น BD จึงสามารถใช้เล่นแผ่น BD และยังบันทึกข้อมูลลงแผ่นได้อีกด้วย

แม้มีคุณสมบัติที่โดดเด่น แต่..ก็ยังมีข้อจำกัด

จากที่ทราบมาแล้วข้างต้นว่า BD นั้น ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์สีน้ำเงิน ซึ่ง CD และ DVD ในปัจจุบัน ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์สีแดง ฉะนั้น เครื่องเล่น CD และ DVD ในปัจจุบันนี้ ยังไม่มีแสงเลเซอร์สีน้ำเงินที่จะอ่านแผ่น BD ได้ และในเหตุผลเดียวกัน เครื่องเล่น BD เองก็ไม่สามารถอ่านแผ่น CD หรือ DVD ทั่วๆ ไปได้เหมือนกัน ทำให้เครื่องเล่น BD อาจจะต้องพัฒนาให้มีระบบแสงเลเซอร์ทั้ง 2 ชนิด (เลเซอร์สีน้ำเงิน และสีแดง) อยู่ในเครื่องเดียวกัน เพื่อที่จะสามารถอ่านทั้งแผ่น BD, CD และ DVDได้ ซึ่งแน่นอนราคาของเครื่องเล่น BD จะสูงมากกว่าเครื่องเล่นชนิดอื่นอย่างไม่ต้องสงสัย

สรุปคุณสมบัติพิเศษของ BD

1. ความจุในการบันทึกข้อมูลสูงถึง 27 กิกะไบต์
2. อัตราการถ่ายโอนข้อมูลมีความเร็วสูงถึง 36 Mbps.
3. ง่ายต่อการดูแลรักษาจากฝุ่น และลายนิ้วมือ เพราะมีคาร์ททริดจ์ปกป้อง

ด้วยคุณลักษณะที่โดดเด่น ที่สามารถสนองความต้องการได้อย่างไม่หยุดยั้งนี้เอง ทำให้ Blu-ray Disc น่าจะเป็นที่จับตามองต่อไปว่า จะสามารถเข้ามาตีตลาด และครองใจแฟนๆ CD และ DVD ได้หรือไม่ เพราะด้วยข้อจำกัดในเรื่องเครื่องเล่น ตัวแผ่น รวมไปถึงสนนราคาที่ค่อนข้างจะสูงเอาการ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://blog.spu.ac.th/mongTaku

maewlaay โพสต์ 16-3-2010 16:20:12

ขอบคุณครับ... :)

booboo โพสต์ 16-3-2010 18:24:05

ยินดี และขอบคุณทุกคนครับ

booboo โพสต์ 16-3-2010 18:24:39

ยินดี และขอบคุณทุกคนครับ

abc1 โพสต์ 17-3-2010 08:33:42

ขอบคุณครับ

ben_ten โพสต์ 21-3-2010 18:10:39

ดีกว่า DVD แน่นอน

tully55frank โพสต์ 21-9-2010 15:02:49

อ่อ มันเป็นอย่างนี้เอง

tully55frank โพสต์ 21-9-2010 15:44:29

อ่อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

biglong โพสต์ 22-9-2010 09:50:28

ขอบคุณเด้อ สงสัยมานาน มันคืออะไร บางไฟล์มันใหญ่เกือบเท่าดีวีดี

Goo_Roo โพสต์ 22-9-2010 18:46:56

{:3_52:} thx
หน้า: [1] 2
ดูในรูปแบบกติ: มาทำความรู้จักกับ Blu-ray Disc กันดีกว่า